เคล็ดลับภาษาอังกฤษที่ปิ่นเอามาฝากวันนี้ คือ Phrasal Verbs เกี่ยวกับ Pass ซึ่งอย่างที่รู้กันไปแล้วว่า Phrasal
Verbs เป็นการมารวมตัวกันระหว่าง Verbs กับอะไรนะคะ
... กับ Preposition ใช่มั้ยคะ?? ซึ่งพอมารวมกันแล้วความหมายก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
วันนี้ก็มี Phrasal
Verbs เกี่ยวกับ Pass หลายคำเลยนะคะ
Pass up (on) เช่น Pass up on something หรือ pass
up an opportunity means you let it go แปลว่าเราได้ปล่อยโอกาสนั้นไป หรือไม่คว้าโอกาสนั้นไว้
Pass up คือ ปล่อยให้สิ่งนั้นๆ ผ่านไปนั่นเองค่า อีกความหมายหนึ่งนะคะ เช่น
เรากำลังยืนบนบันไดและทาสีผนังอยู่
แล้วอยากจะหยิบพู่กันอีกอันนึงที่อยู่ข้างล่างเพื่อมาทาสี
และเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านล่างก็หยิบพู่กันส่งมาให้ คือ เค้า pass it up to
me
Pass on มีหลายความหมายนะคะ หนึ่งในนั้นคือเป็นการพูดอย่างนุ่มนวลเกี่ยวกับความตาย
เช่น He passed on a few weeks ago. ก็คือ เค้าตายไปเมื่อ 2-3
สัปดาห์ที่ผ่านมา pass on ยังแปลว่า pass on information or
move or give or transfer คือ การส่ง หรือโอนย้ายข้อมูลให้นะคะ เช่น Here’s
the new rules. Pass it on to everybody in the office. เราอาจจะบอกลูกน้องของเราว่า
นี่เป็นกฎใหม่ของบริษัทฯ ช่วยส่งไปให้พนักงานทุกคนได้อ่านนะคะ
หรืออีกตัวอย่างหนึ่งนะคะ
ถ้าเราไปกินข้าวบ้านเพื่อน และเพื่อนทำ nice roast pig แต่เราเป็นคนกินมังสวิรัติ
เราก็จะต้อง pass on the roast คือไม่กินหมูย่าง แล้วก็กินผัก หรืออย่างอื่นแทน
Pass over เป็นการ pass หรือส่งของแบบแนวนอนนะคะ
แต่อาจหมายถึงการดูอะไรแบบเร็วๆ แบบไม่ได้ลงรายละเอียด และก็อาจใช้ในความหมายว่า
skip something or someone แบบว่าข้ามบางสิ่งหรือบางคนไป เช่น
ถ้าเราจะเลือกคนเข้าลงแข่งบาสเกตบอล เราก็จะเลือกบางคน
และไม่เลือกบางคนที่เล่นได้ไม่ค่อยเก่ง
Pass through เช่น เราเจอเพื่อน พูดหวัดดีแล้วก็ไป
ไม่ได้หยุดคุยนาน หรืออาจจะพูดถึงลมวิ่งทะลุเสื้อเข้ามาโดนตัวเรา ก็คือ pass
through
Pass by คือ ผ่านไปเร็วๆ เช่น
เพื่อนบ้านแวะมาทักทาย แปบๆ แล้วก็ไป หรือรถที่ขับผ่านเราไปอย่างเร็วๆ หรือเราอาจจะใช้กับบางสิ่งบางอย่างที่มักจะผ่านไปเป็นปกติ
เช่น เวลา เวลาไม่เคยคอยใคร เวลามักจะผ่านไปเสมอๆ Time just keep passing
by.
Pass down การส่งของที่ทิศทางตรงข้ามกับ pass
up เช่น เราอยู่ด้านบน และเพื่อนยืนอยู่ด้านล่าง เราก็ pass down คือ
ส่งของให้เพื่อนที่ยืนอยู่ด้านล่าง แต่อีกความหมายหนึ่งคือการส่งต่อจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง
เช่น เราส่งต่อเสื้อผ้าของเราที่ยังใช้ได้ไปให้หลานของเรา
Pass away คล้ายๆ pass on ตรงที่เป็นการพูดอย่างนุ่มนวลเกี่ยวกับความตาย
เพราะคนทั่วไปไม่ชอบคำว่า die ก็จะใช้ pass on หรือ pass
away แทนนะคะ และในกรณีนี้ pass away มีการใช้มากกว่า pass
on ด้วยนะคะ
Pass out คือ การส่งต่อให้หลายๆ
คน เช่น เรายืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนและกำลังส่งต่อกระดาษให้กับเพื่อนแต่ละคนที่อยู่รอบๆ
เรา ก็คือ การ pass out นั่นเองค่า และ pass out ยังมีความหมายว่าไม่รู้สึกตัว
เช่น เราดื่มเหล้ามากๆ จนเมา และหลับไปแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว
Pass off ความหมายคล้ายๆ การเสแสร้งที่จะเป็น หรือการโน้มน้าวทำให้เค้าคิดว่าเราเป็นแบบนั้น
เช่น เราอาจจะยืนในกลุ่มของคนที่เก่งมากๆ เค้าพูดอะไรกันเราก็ฟังไม่รู้เรื่อง
แต่เราก็ pass off แสร้งว่าเราเข้าใจ และทำให้เค้าคิดว่าเราเก่งเหมือนเค้า
หรือเราอาจจะเดินเข้าไปในร้านขายกระเป๋า แล้วก็มี Gucci วางอยู่ ขายถูกมาก
เราก็อาจจะเปรยๆ ว่าเหมือนของปลอมเลย แต่เจ้าของร้านรีบปฏิเสธ
แล้วบอกว่ากระเป๋าใบนั้นเป็นของจริง ทั้งๆ ที่เราก็ดูออกว่าเป็นของปลอม
นี่ก็เป็นการ pass off แบบหนึ่งนะคะ
Pass around คล้ายๆ การแบ่งปัน เราถือกล่องใส่ลูกอมแล้วส่งต่อให้แต่ละคนหยิบลูกอมจากในกล่อง
แล้วส่งต่อให้คนอื่นๆ หยิบลูกอมออกไปเรื่อยๆ นี่คือ pass around
และ Idioms หรือสำนวนที่จะเอามาฝากในวันนี้
ก็คือ “play it by ear” ปกติเวลาที่เราเล่นเครื่องดนตรีแบบเป็นวงเราก็ต้องฟังตอนเล่นสดๆ
ว่าเพื่อนเล่นไปถึงไหน แล้วเราก็ต้องเล่นให้เข้ากับเพื่อน ซึ่ง “play it by ear” ก็เป็นสำนวนที่แปลว่า ให้เราลงมือทำไปตามสถานการณ์เฉพาะหน้าที่เราเจอจริงในตอนนั้น
อ้างอิง : http://youtu.be/Ca5C-pDb9IU