Thursday, June 16, 2016

[อังกฤษ 29] 3 tips for sounding like a native

เคล็ดลับภาษาอังกฤษที่ปิ่นเอามาฝากวันนี้ เป็นเรื่องที่เบาๆ นิดนึงนะคะ นั่นก็คือ 3 tips for sounding like a native speaker : เคล็ดลับ 3 ข้อที่จะทำให้เราพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนเจ้าของภาษาค่า ซึ่งนั่นจะต้องใช้เวลา และการฝึกอย่างมากเลยนะคะ ซึ่งทางที่ดีที่สุดคือไปอยู่เมืองนอก แต่เราก็มีทางอื่นนะคะโดยที่ต้องใช้เวลา และการฝึกฝนหน่อย เรามาเรียนรู้เคล็ดลับทั้ง 3 ข้อกันเลยค่า
1.       Connecting words เป็นการเชื่อมเสียงของคำที่ติดกันเข้าด้วยกันนะคะ เช่น
·        Black Coffee เราจะไม่อ่านว่า แบล็ค-เคอะ-คอฟ-ฟี่ แต่เราจะอ่านว่า  แบล็ค-คอฟ-ฟี่ คือตัดเสียง เคอะ ออกไปนะคะ
·         What do อ่านว่า ว็อท-ดู ไม่อ่านว่า ว็อท-เทอะ-ดู, ถ้าเป็นประโยคยาวๆ เช่น What do you do? เราจะอ่านเป็น ว็อท-เดอะ-เยอะ-ดู คือ คำระหว่างกลางจะออกเสียงสั้นๆ เหมือนเป็นการย่อคำ
·        not at all เราจะอ่านว่า นอท-แทท-ทอล ไม่ใช่ นอท-แอท-ออล คือ เสียงจะเชื่อมกันไปหมดนะคะ
2.       Squeeze words เป็นการหดคำบางคำ เช่น
·        Comfortable เราจะไม่อ่านว่า คอม-ฟอท-เท-เบิ้ล แต่จะอ่านว่า คอมฟ-เท-เบิ้ล แทน
·        Interesting เราจะอ่านว่า อิน-เทรส-ติ้ง แทนที่จะอ่านว่า อิน-เทอ-เรส-ติ้ง เว้นแต่ว่าถ้าเราต้องการจะเน้นหรือย้ำคำนั้นจริงๆ เราก็จะพูดว่า อิน-เทอ-เรส-ติ้ง ได้นะคะ
·        Every จะอ่านว่า เอฟ-รี่ แทน เอฟ-เวอ-รี่
3.       Squeeze letters
·        Country เวลาที่ t กับ r มาอยู่ด้วยกันจะออกเสียงเป็น chr เราจะไม่ออกเสียงว่า คัน-ทรี่ แต่จะออกเป็น คัน-ชทรี่
·        Hundred >> dr จะออกเสียงเป็น jr เวลาอ่านจะอ่านเป็น ฮัน-เจร็ด แทนที่จะเป็น ฮัน-เดร็ด
·        Did you…อันนี้จะคล้ายๆ กับที่พูดไปแล้ว เราจะเชื่อมตัว d ที่อยู่ด้านหลัง did เข้ากับ y ที่อยู่หน้า you เมื่อเชื่อมกัน เสียงจะออกมาเหมือนตัว j ก็จะออกเสียงเป็น ดิ-จู
ซึ่งทั้งหมด ถ้าเราฝึกออกเสียง รวมทั้งฝึกฟังภาษาอังกฤษเยอะๆ ก็จะช่วยอีกทางหนึ่งด้วยนะคะ



สำหรับสำนวนที่เอามาฝากวันนี้ก็คือ Catch you on the flip side! สำนวนนี้มาจากดีเจนะคะ เค้าจะปล่อยให้แผ่นเสียงเล่นเพลงไปจนหมดหนึ่งด้าน แล้วจะมาพูดคุยกับคุณผู้ฟังตอนที่จะกลับด้านแผ่นเสียง เค้าก็เลยพูดว่า Catch you on the flip side! ซึ่งแปลว่า See you later, Talk to you soon


อ้างอิง : https://youtu.be/ChZJ1Q3GSuI

Thursday, June 2, 2016

[อังกฤษ 28] Prepositions to say where you live : AT ON IN

          เคล็ดลับภาษาอังกฤษที่ปิ่นเอามาฝากวันนี้ คือ การใช้ preposition “AT” “ON” “IN” เวลาที่มีคนถามเราว่าเราพักอยู่ที่ไหน หรือ where do you live?
          AT : ใช้ในกรณีที่เราจะให้ที่อยู่ที่แน่นอน เช่น บอกเลขที่บ้าน แล้วบอกถนน เราจะพูดว่า I live at 35 Hill Street.
          ON : ใช้ในกรณีที่เราจะบอกว่าเราพักอยู่ที่ถนนไหน คือ เราบอกแค่ชื่อถนนที่เราอาศัยอยู่ เค้าอาจจะถามเราว่า Which street do you live on? เราก็จะตอบว่า I live on Hill street. และสิ่งที่บอกถึงถนน นอกจาก street (St.) ก็จะมี road (Rd), avenue (Ave), drive (Dr), boulevard (B/vd)
          IN : ใช้ในกรณีที่เราจะบอกว่าเราอยู่ในเมือง รัฐ หรือประเทศ เช่น I live in Los Angeles. I live in Bangkok. I live in Thailand.
          นอกจากนี้ถ้าเราจะพูดลงในรายละเอียด เราอาจจะใช้ at ในกรณีที่บอกว่า I live at the intersection Pine and Maple Streets. >> คือ มีถนน 2 เส้น แล้วเราอาศัยอยู่ใกล้ๆ เราก็สามารถพูดแบบนี้ได้นะคะ
          หรืออาจจะมีคนถามว่า Which floor do you live on? เราก็จะตอบว่า I live on the 15th floor.
          และบางครั้งเราอาจจะบอกว่า เราอาศัยในอพาร์ตเมนต์ หรือในแฟลต หรือในบ้าน เราก็จะพูดว่า I live in an apartment. I live in a flat. I live in a house.

          และต่อจากนี้เป็นแบบฝึกหัดเล็กน้อยที่เอามาฝากกันนะคะ
Lucos lives…
1…………….Miami
2…………….the 6th floor
3…………….92 Bird St.
4…………….Florida
5…………….Kendall Dr.
6…………….an apartment

Sarah lives…
7…………….65 Oxford st.
8…………….London
9…………….Regent St.
10…………….a rented flat
11…………….the 10th floor
12…………….England




          และ Idioms หรือสำนวนที่จะเอามาฝากในวันนี้ ก็คือ “Get on one’s nerves” แปลว่า ทำให้รำคาญ กวนประสาท  Please stop singing. It’s getting on my nerves. >> ช่วยหยุดร้องเพลงเถอะ มันรบกวนฉันมาก มันทำให้ฉันรำคาญมาก อะไรประมาณนี้นะคะ

(เฉลย : 1 = in ,2 = on ,3 = at ,4 = in ,5 = on ,6 = in ,7 = at ,8 = in ,9 = on ,10 = in ,11 = on ,12 = in )

อ้างอิง : http://youtu.be/3957TbatjPg

Google