Thursday, April 28, 2016

[อังกฤษ 26] การใช้ get

เคล็ดลับภาษาอังกฤษที่ปิ่นเอามาฝากวันนี้ คือ เป็นเคล็ดลับสั้นๆ ค่า เกี่ยวกับการใช้ get
สำหรับตอนแรกนะคะ มี 4 คู่ด้วยกัน ก็คือ
- get punished (ถูกลงโทษ)
- get hit (ถูกตี)
- get beaten (ถูกตี, ถูกตบ, ถูกทำให้แพ้)
- get awarded (ได้รางวัล)
ทั้ง 4 คู่นี้ จะเป็นการใช้ get ที่ตามด้วยกริยาช่องที่ 3 ซึ่งที่พูดถึงจะเป็นลักษณะที่ประธานถูกกระทำนะคะ ซึ่งจริงๆ เราสามารถใช้ V.to be แทน get ได้ แต่ว่าถ้าใช้ get จะ informal มากกว่า หรือไม่ค่อยทางการค่า

ส่วนอีก 4 คู่ที่เหลือคือ
- get started
- get going
- get angry
- get hungry
ซึ่ง get started แปลว่า เริ่มนะคะ ซึ่งนอกจาก get started แล้ว เรายังสามารถใช้ start ได้เลย ระหว่าง Let’s get started. กับ Let’s start. ก็ความหมายเดียวกันเลยนะคะ แต่อย่างที่บอกว่า get started จะดูไม่ค่อยเป็นทางการ
ส่วน get going โดยทั่วไปก็มีความหมายเดียวกับ go นะคะ
ส่วน get angry และ get hungry มีความหมายว่า become angry และ become hungry ซึ่ง become แปลว่า กลายเป็น หรือเปลี่ยนเป็น ในที่นี้ก็แปลว่า เปลี่ยนเป็นโกรธ หรือเปลี่ยนเป็นหิว นั่นเองค่า
โดยตัวอย่างที่พูดถึงมานี้ส่วนใหญ่จะเจอในภาษาพูด จะไม่ค่อยเจอในภาษาเขียนนะคะ ภาษาพูดจะใช้พวกนี้เยอะมาก ยังไงก็เอาไปลองใช้กันได้เลยค่า



สำนวนที่เอามาฝาก เป็นสำนวนที่มีคำว่า get อยู่ด้วยนะคะ นั่นก็คือ To get cold feet ได้ยินคำว่า cold ก็อยากให้อากาศตอนนี้เย็นลงซักนิดนึงนะคะ ช่วงนี้อากาศร้อนจนแทบจะละลายอยู่แล้ว ว่าแต่เรามาดูความหมายกันดีกว่า To get cold feet ไม่ได้แปลว่าทำให้เท้าเย็นนะคะ แต่หมายความว่า กลัว หรือกังวลที่จะทำบางอย่าง บางคนอาจจะบอกว่าปอดแหกนะคะ ออกจะดูไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ เอาเป็นว่ากลัวมากละกันค่า เช่น เพื่อนเอากำลังจะขึ้นเวลา และดูท่าทางเค้าดูกังวลๆ เราก็อาจจะถามเค้าว่า Are you getting cold feet? เธอกำลังกังวลใช่มั้ย อะไรประมาณนั้นนะคะ

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=c7tqOatZ3vs&feature=youtu.be

Thursday, April 21, 2016

[อังกฤษ 25] Phrasal Verbs with Take

เคล็ดลับภาษาอังกฤษที่ปิ่นเอามาฝากวันนี้ คือ Phrasal Verbs with Take อีกทีนะคะ Phrasal verb ก็คือการที่มี Verb และ Preposition มาอยู่ด้วยกัน แล้วทำให้ความหมายแตกต่างไป

- Take out แปลว่า เอาออก เช่น Take the turkey out of the oven. หยิบไก่งวงออกจากเตาอบ และคำนี้ก็เป็นแสลงด้วยนะคะ If you want to take someone out, it means you kill him. (หรือ assassinate คือ ลอบฆ่า)

- Take in ความหมายแรกเป็นสิ่งที่ใช้บ่อยนะคะ ถ้าเราผอมลง และเสื้อผ้าที่เราเคยใส่พอดี กลับหลวม เราก็ใช้ Take in ได้นะคะ นั่นก็คือ การเอาเสื้อไปเข้ารูปให้พอดีตัวเรา คือ ทำขนาดเสื้อให้เล็กลงนั่นเองค่า หรือบางครั้งที่เราเห็นแมวนอนอยู่หน้าบ้าน เราก็ไปหยิบแมวตัวนั้นเข้ามาเลี้ยงในบ้าน ก็คือการ take in เหมือนกัน แต่ในที่นี้ความหมายจะเป็นในเชิง adopt คือ รับเลี้ยงดู ค่า

- Take over คำนี้เราได้ยินบ่อย เวลาที่บริษัทใหญ่ๆ ไป Take over บริษัทเล็กๆ ก็คือ การ Take control ค่า หรือบางทีเราขับรถอยู่ และง่วงมาก เราอาจจะบอกเพื่อนว่า Can you take over the driving? คือ ถามเพื่อนว่า “ช่วยขับแทนเราได้มั้ย”  นะคะ

- Take up แปลว่า ใช้ เช่น Take up space in the room คือ ใช้พื้นที่ในห้องค่ะ อีกด้านหนึ่งเราสามารถใช้ Take up ในการที่เราเริ่มทำงานอดิเรกใหม่ หรือเริ่มที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ และสำหรับ Phrasal verb นี้ เราสามารถเพิ่ม with เข้าไปได้ด้วย เป็น Take up with someone แปลว่า เรา Discuss/พูดคุย/ถกปัญหา กับเค้า

- Take after >> If you take after someone means you behave like him ซึ่งการ Take after ใคร ก็คือ การทำเหมือนคนนั้นนั่นเองนะคะ

- Take back ความหมายแรก เช่น เราอาจจะให้เพื่อนยืมปากกา แล้วพอเพื่อนใช้เสร็จ เราก็ Take it back นะคะ อีกความหมายหนึ่งถ้าเราพูดอะไรให้เพื่อนไม่สบายใจ เราก็จะ Take it back คล้ายๆ กับถอนคำพูดนะคะ ซึ่งก็หมายถึงเราขอโทษนั่นเอง แต่ถ้าเราไปสัญญาอะไรกับใคร แล้วเรา Take it back นั่นก็หมายความว่าเรายกเลิกสัญญานั้นๆ ค่า

- Take off เราจะได้ยินบ่อยๆ เวลาที่เครื่องบินจะบินขึ้นนะคะ แต่มีอีกความหมายหนึ่ง แปลว่า สำเร็จอย่างรวดเร็ว

- Take on คือ เราเผชิญหน้ากับสิ่งที่ท้าทาย เช่น I don’t know how to do something but I will take it on. I will try to do it. I will challenge it. แต่อีกความหมายนึง Take someone on แปลว่า เผชิญหน้ากับคนคนนั้นนะคะ

- Take down คือ ทำให้ล้มลง เช่น He takes me down. คือ He knocks me down. อีกความหมายหนึ่งก็คือการจดข้อความลงในสมุด เช่น เวลาเรียนในห้อง เราก็จะ take down the notes.

- Take to การ Take to someone คือ การที่เรามีการติดต่อกับคนคนนั้น แต่ถ้าเรา Take something to someone or some where อันนี้ แปลว่า Carrying ก็คือ ถือไป นะคะ


สำนวนที่เอามาฝากคือ To take someone under your wing หมายความว่า เราดูแลคนบางคนภายใต้ปีกเรา สอนเค้า ปกป้องเค้า และหวังว่าวันหนึ่งเขาจะบินได้ (Take someone like a protege)

ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=mrXt9yrZryg&feature=youtu.be

Thursday, April 7, 2016

[อังกฤษ 24] Top 11 Spelling Mistakes

เคล็ดลับภาษาอังกฤษที่ปิ่นเอามาฝากวันนี้ เป็นเรื่องเบาเบานะคะ ก็คือ Top 11 Spelling Mistakes ซึ่ง 11 คำนี้เป็นคำศัพท์ที่มักมีการเขียนผิดใน IELTS นะคะ ซึ่งการเขียนศัพท์ให้ถูกต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ นะคะ ถ้าเขียนผิดก็จะโดนหักคะแนน เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 คำที่มักจะสะกดผิดมีอะไรบ้างนะคะ

1. Different ซึ่งคำนี้บางครั้งจะมีการเขียน f แค่ตัวเดียว และบางทีก็เขียน rant แทนที่จะเป็น rent ด้วยค่ะ และบางครั้งก็จะมีการสับสนระหว่าง different กับ difference นะคะ โดย different (adj.) ต่างกัน, แตกต่าง แต่ difference เป็นคำนาม แปลว่า ความแตกต่าง หรือเป็นกริยา แปลว่า ทำให้แตกต่าง นะคะ
2. Society ซึ่งสิ่งที่ผิดบ่อยคือ มักจะมีการสลับ ie เป็น ei นะคะ (คำนี้ถ้าเป็นคำนาม แปลว่า สังคม แต่ถ้าเป็น adj. แปลว่า เกี่ยวกับคนชั้นสูง)
3. Their คำนี้เหมือนกันค่ะ ก็จะมีการสลับ ei เป็น ie เป็น adj แปลว่า ของเขาเหล่านั้น
4. Believe คำนี้ก็มีการสลับ ie เป็น ei เหมือนกันนะคะ เป็นคำกริยา แปลว่า ศรัทธา เลื่อมใส หรือ เชื่อ นะคะ
5. Definitely ซึ่งมักจะมีการลืม e ตรง nite ค่า คำนี้เป็น adv. แปลว่า อย่างแน่นอน ค่า
6. Government มักจะมีการลืม n นะคะ  และมักมีการสะกด mant แทนที่จะเป็น ment คำนี้ทุกคนน่าจะคุ้นเคยดีนะคะ เป็น คำนาม แปลว่า รัฐบาล หรือ การปกครอง ค่า
7. Environment คำนี้ก็เหมือนกันค่ะ มักจะมีการลืม n ตรง ron  และมักมีการสะกด mant แทนที่จะเป็น ment คำนี้หลายๆ คนก็คงจะรู้จัก ซึ่ง environment เป็นคำนาม แปลว่า สิ่งแวดล้อมนะคะ
8. Which คำนี้ดูเหมือนไม่น่าจะผิดนะคะ แต่ก็มีบางคนที่สะกดเป็น witch หรือ whish ซึ่ง which เป็น adj. แปลว่า สิ่งที่ อันที่
9. Percentage สิ่งที่สะกดผิดคือ สะกด tege ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะเป็น tage เป็นคำนาม แปลว่า อัตราร้อยละ ค่า
10. Nowadays เป็นคำที่ผิดบ่อยๆ เพราะมักจะลืมเติม s ด้านหลังนะคะ เป็น adv. แปลว่า ทุกวันนี้ นะคะ
11. Until ซึ่งสิ่งที่ผิดพลาดคือ มักจะมีการเติม l เพิ่มเข้าไปอีก 1 ตัวกลายเป็น untill เป็น conj. หรือ prep. แปลว่า จนกระทั่ง ค่า



และ Idioms หรือสำนวนที่จะเอามาฝากในวันนี้ ก็คือ “pull my leg” หมายถึง ล้อเล่น หรือที่ อำ เราอาจจะถามเพื่อนว่าเธอกำลังอำฉัน หรือแกล้งฉันอยู่ใช่มั้ย ก็จะใช้คำถามว่า “Are you pulling my leg” ซึ่งเราอาจจะเปลี่ยนจาก my เป็น your หรือ their ก็ได้นะคะ

และสำหรับคำศัพท์เกี่ยวกับ อย. ที่เอามาฝากก็คือ ชื่อสำนักงานเลขานุการกรม ภาษาอังกฤษคือ OFFICE OF THE SECRETARY AND UNOFFICIAL UNITS

อ้างอิง : https://www.youtube.com/watch?v=i1XXR0kUKYk&feature=youtu.be

Google