Sunday, September 9, 2012

[Diary 3] Raise the childhood in ourselves

Last night I slept at 2 am
because I cannot stop talking with friend.
I talked to her as a child.
Someone said that ..
The old one like to talk about the past.
If it was us. We both have grown older
more than 10 years,
because we talked about the past all the time.

My friend talks about her bravery.
This is something I have never heard.
I do not know how I missed it
because she always tell me a lot of bravery.

I felt that we were really close friend.
Sometime I feel it too close.
So it make us fight.
Because we feel the same way.

OK, let’s listen to her bravery.
When she's about 3 years.
She followed her mother to work.
Her mother’s office as a multi-storey building.
There’s the one who takes care of her
and the one took her to the terrace around 6th or 7th.

She hint, "if the shoe drop from here, would it be OK".
The one do not care what she said.
Then she release the shoes running
under the gravity.

The shoes stick to the roof of the car.
The roof was sunken down a notch shoes.
Her mother had to pay damages to the owners.

In addition her mother had complained to her boss and she heard it.
When she followed her mother to work,
she tell everyone about her mother until her mother’s boss know it.
So her mother was embarrassed.

She was a child ... here is naive like that.

Spoke as a child .... I have got a lot of stories.
One feeling that stuck in my heart and never forgotten.
I turned up to look at the sky and extend arms, at about 5 o'clock.
The breeze wafting through the dragonfly skated.
It was a pleasure. And it is independent.

I think that will do the stairs at home.
Build up indefinitely to climb to the moon.
When I grew up, I recently discovered that
"Oh! It's impossible".

Also ... I ever thought I would do the road slipping.
To put the car on the road. We did not have to drive.
Do not worry, the car will crash.
The road like walking in the airport went to Gate.
Can you see?
If that. We have not use the car here,
only person standing on the street. Enough!!
But it seemed have a little problem,
when someone want to go out.
Everyone had to wait him out.
So this concept shall be rejected.

The hold thing that I tell,
I want to express “when we was young,
we always have something creative in mind”.
But when we grow up, our experienced made us stop it.
No matter what ... you can only create it.
Raise the childhood in ourselves to outstanding in the world.

I support the child in you. :)

[ไดอารี่ 3] ความเป็นเด็กในตัวเรา

เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตีสองกว่า

มีเรื่องเม้าท์มอยกับเพื่อนไม่หยุด
คุยกันถึงสมัยตอนเป็นเด็กเลยล่ะ
มีคนเคยบอกว่า..คนแก่ชอบพูดถึงอดีต
ถ้าเป็นแบบนั้นจิง เราทั้งคู่ก้อคงแก่
มากว่า 10 ปีแล้ว เพราะเราคุยถึงเรื่อง
สมัยเป็นเด็กกันตลอดเวลา
เพื่อนเล่าให้ฟังถึงวีรกรรมสมัยเด็ก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันยังไม่เคยได้ฟัง
ไม่รู้ว่าพลาดไปได้ไง
เพื่อนฉันเป็นคนเรื่องเยอะนะ
แล้วก็แสบจิงๆ ตั้งแต่เด็กจนโต
เค้าจะมีเรื่องเล่าให้ฉันฟังเสมอ
บางทีก็รู้สึกว่าเราสนิทกันมากเกินไป
จนไม่ค่อยเกรงใจกันเท่าไหร่
ซึ่งบ่อยครั้งที่เราทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ก็เพราะความไม่ค่อยเกรงใจกันนี่แหละ
อ่ะ..มาฟังถึงวีรกรรมของเธอกันดีกว่า
เธอเล่าว่าตอนประมาณ 3 ขวบ
เธอติดตามแม่เธอไปทำงาน
ที่ทำงานของแม่เป็นตึกสูงหลายชั้น
พอไปถึงที่ทำงานก็มีน้าคนนึงที่คอยดูแลเธอ
พาเธอไปเล่นที่ระเบียงชั้น 6 หรือ 7 ราวๆ นี้
เธอก็เปรยๆ ว่า “ถ้ารองเท้าร่วงลงไปจากตรงนี้จะเป็นยังไงน๊า”
น้าคนนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เธอก็เลยทดสอบกฎของนิวตัน
ด้วยการปล่อยให้รองเท้าเกี๊ยไม้ทำงาน
ภายใต้สภาวะแรงโน้มถ่วงของโลก

คงไม่ต้องเดาเลยใช่มั้ยคะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ส้นรองเท้าของเธอ ปักลงไปที่หลังคารถ
หลังคาก็บุ๋มลงไปเป็นรอยรองเท้า
แม่เธอก็จ่ายค่าเสียหายไปตามระเบียบ
นอกจากนี้นะ...แม่เคยบ่นเจ้านายที่ทำงานให้เธอได้ยิน
พอไปถึงที่ทำงานเธอก็ไปเม้าท์ให้ทุกคนฟังเรื่องแม่
จนเรื่องนี้ไปเข้าหูเจ้านายของแม่
แม่เธอก็หน้าเจื่อนไปเลยยย
เธอช่างเป็นคนเปิดเผยจิงๆ
ก็เธอยังเป็นเด็กนี่นา...ก็ไร้เดียงสาแบบนี้แหละ

พูดถึงตอนเป็นเด็ก...จิงๆ ฉันก็มีเรื่องเล่ามากมายเลยนะ
และความรู้สึกที่ติดอยู่ในใจตลอดไม่เคยลืม
ก็ตอนที่กางแขนหมุนตัวมองท้องฟ้าตอนเวลาประมาณ 5 โมงเย็น
มีลมเย็นๆ โชยผ่าน แมลงปอบินว่อน
ช่างเป็นความรู้สึกที่มีความสุข และมีอิสระอย่างบอกไม่ถูก
เคยคิดไว้ว่าจะทำบันไดตั้งไว้ที่หน้าบ้าน
สร้างให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
จนสามารถปีนไปถึงดวงจันทร์
แต่พอโตขึ้นก็เพิ่งค้นพบว่า “อ่อ!! มันทำไม่ได้นี่”

นอกจากนี้นะ...ฉันก็เคยคิดจะทำถนนให้เป็นทางเลื่อน
รถก็วางอยู่บนถนน เราก็ไม่ต้องขับ ไม่ต้องกลัวว่ารถจะชน
เหมือนทางเดินในสุวรรณภูมิตอนเดินไป Gate อ่ะ คุณพอเห็นภาพป่ะ
แล้วฉันก็มาคิดต่อ เอ... ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็ไม่ต้องใช้รถก็ได้นี่
ให้แค่คนยืนบนถนนก็น่าได้ แต่มันจะลำบากนิดนึงนะ
ถ้าใครอยากลงจากถนน ทุกคนก็ต้องหยุดรอกันหมด
เป็นอันว่าความคิดนี้ตกไป
ที่เล่านี่ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะ
ฉันว่า...ทุกคนก็คงเป็นเหมือนกัน
ตอนเด็กๆ เรามักจะมีอะไรที่สร้างสรรค์อยู่เสมอ
แต่ด้วยประสบการณ์อะไรบางอย่างทำให้เราหยุดเรื่องเหล่านั้น
ไม่ว่ายังไง...เราก็สามารถปลุกความคิดนั้น ขึ้นมาในตัวตนของเราได้อีก
ปลุกความเป็นเด็กในตัวเรา ให้โลดแล่นในโลกใบนี้
ฉันสนับสนุนความเป็นเด็กในตัวคุณ ^^

Saturday, September 8, 2012

[Diary 2] Excercise

Today I exercise two and a half hours.
Playing badminton, walking
I lost energy about 300 kcal.
It’s long time ago that I never exercise.
Now... I will go to the gym every Saturday.

I feel great. Because exercise.
Make me feel that I am self-conscious.
Ensuring a strong, healthy muscles.
But after the exercise is completed,
I must take anti-oxidants.
Because when I exercise, many radicals happen.

In addition,
Exercise make me feel relax.
Because the brain does not
have much chance to think.

After exercise is completed.
Before backing home,
I stopped eating two bowls of Noodle Vietnamese.
Satiety ...
Energy from two bowls of Noodle Vietnamese
is 235 kcal multiplied by two.

Oh .... gain. lol

Next Saturday,
I promise I will loss!!!

[ไดอารี่ 2] ออกกำลังกาย

วันนี้ไปออกกำลังกาย 2 ชั่วโมงครึ่ง
ตีแบด เดิน ใช้พลังงานไปประมาณ 300 kcal ได้
นานมากแล้ว ที่ไม่ได้ออกกำลังกายแบบนี้
ต่อจากนี้...ตั้งใจว่า จะไปออกกำลังกายทุกวันเสาร์

รู้สึกดีมากเลย เพราะการออกกำลังกาย
ทำให้เรารู้สึกว่า..เรากำลังใส่ใจตัวเอง
ดูแลให้กล้ามเนื้อแข็งแรง สุขภาพดี
แต่ที่สำคัญหลังจากออกกำลังกายเสร็จ
ต้องกินสารอาหารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระด้วย
เพราะตอนที่เราออกกำลังกายจะเกิด
อนุมูลอิสระจำนวนมากมายเลยทีเดียว

นอกจากนั้นแล้ว...
สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นจากการออกกำลังกาย
คือ ความรู้สึกสบายใจ โล่ง
เพราะช่วงที่ออกกำลังกาย
สมองจะไม่มีโอกาสได้คิดมาก

ออกกำลังกายเสร็จ
ก่อนกลับบ้านก็ได้แวะทานข้าวชิลๆ
กินก๋วยจั๊บญวน 2 ชาม
อิ่มแปล้...
คำนวณพลังงานที่ได้เข้ามาเท่ากับ
235 kcal คูณ 2

โอ้ววว....วันนี้กำไร 555

เอาไว้เสาร์หน้าว่ากันใหม่
เราจะยอมขาดทุนบ้าง ^^

Friday, September 7, 2012

[Diary 1] My story

Whenever I have time.
I will relay the story in my view
via Fingertips to the keyboard.
That’s a splendid time.

I say “whenever I have time”
because this is a very busy period in my life.
Working, my business and a lot of activities
that I choose for myself.
Sounds as to put my foot in it!
It's not exactly ...
what are my options is a good thing for all my life.
Every time I relay the story through the fingertips.
Not only opens myself to others
But It make me feel like I'm talking to myself.
That was a really special feeling.

I often do a lot of things.
Without asking myself deeply
that is really what I want to do it.

When I stop and talk to myself,
it made me understand myself more.
And make sure that I choose the right thing.
I do not forget to care someone ...
Someone who love me the most.
That is my own ^ ^.
Let’s do the same as me.
Talking to yourself.
Then you will not feel lonely anymore.

[ไดอารี่ 1] เรื่องราวของฉัน

ทุกครั้งที่พอจะมีเวลา
ฉันจะถ่ายทอดเรื่องราวในมุมมองของฉัน
ผ่านปลายนิ้วที่กระทบกับแป้นพิมพ์
ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
ที่ต้องใช้คำว่า “พอจะมีเวลา”
เพราะตอนนี้เป็นช่วงหนึ่งในชีวิตที่ฉันยุ่งมากจริงๆ
ทั้งงานที่ทำงาน ธุรกิจส่วนตัว
รวมทั้งกิจกรรมอีกจิปาถะที่ฉันเลือกสรรให้ตัวเอง
ฟังดูราวกับว่า...ฉันหาเหาใส่หัวให้ตัวเอง ซะงั้น!!!
ก็ไม่เชิง... สิ่งที่ฉันเลือกล้วนเป็นสิ่งที่ดีกับชีวิตของฉันทั้งสิ้น
ทุกครั้งที่ฉันถ่ายทอดเรื่องราวออกไปผ่านปลายนิ้ว
ไม่เพียงจะเป็นการเปิดตัวเองให้คนอื่นได้รับรู้เท่านั้น
แต่ฉันยังรู้สึกเหมือนกับกำลังนั่งคุยกับตัวเอง
ซึ่งนั่นเป็นความรู้สึกที่แสนพิเศษจริงๆ

บ่อยครั้งที่ฉันทำสิ่งต่างๆมากมาย โดยไม่ได้ถามตัวเองอย่างลึกซึ้ง
ว่าต้องการสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ฉันต้องการจริงๆ รึป่าว
พอได้หยุด แล้วคุยกับตัวเองบ้าง
ก็ทำให้ฉันเข้าใจตัวเอง
สนิทกับตัวเองมากขึ้น
เลือกสิ่งที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับฉันมากขึ้น
และทำให้ฉันไม่ลืมแคร์คนบางคน...
คนที่รักฉันมากที่สุด
นั่นคือตัวฉันเอง ^^

คุณอาจจะลองทำแบบฉันดูก็ได้นะ
คุยกับตัวเองบ้าง แล้วคุณจะไม่รู้สึกอ้างว้างอีกต่อไป
Google