Friday, January 8, 2016

[วันที่ 6] Review : Real Life (Diary) in Taiwan 30 Dec 2015 - 5 Jan 2016 (7 days)

Day 6 : Alishan, Taipei (Raohe St. Night Market, Ximenting Market)

วันที่ 6 แล้ว เวลาผ่านไปเร็วเหมือนกัน ตอนที่มาถึง..นึกไม่ออกเลยว่า..ใกล้ๆ วันสุดท้ายจะรู้สึกยังไง จนมาถึงตอนนี้..มันก็เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกนะ!!

วันนี้เรานัดกัน 5:20 น. เพื่อไปขึ้นรถไฟสำหรับดูพระอาทิตย์ขึ้น พวกเรา กึ่งเดิน กึ่งวิ่ง ฝ่าอากาศหนาวๆ จากที่พักไปยังสถานีรถไฟ

รถไฟออกเดินทาง 6:00 ขึ้นไปถึงยอดเขาข้างบนเวลา 6:25 น. ที่สถานีปลายทางมีป้ายปิดประกาศด้วยว่า..พระอาทิตย์จะขึ้น 7:05 น. และรถไฟเดินทางกลับเวลา 7:45 น.





พอรถไฟจอด เราก็รีบสาวฝีเท้าก้าวขึ้นบันได เพื่อไปจับจองที่ในการยืนรอดูพระอาทิตย์ ระหว่างนั้นก็มีเจ้าหน้าที่มาบรรยายด้วย ก้อดีนะ ฟังเพลินๆ เดาเอาจากท่าทางของเค้า (เค้าบรรยายเป็นภาษาจีน)

เรายืนรอจนถึง 7 โมงกว่า (ระหว่างรอก็ผลัดกันไปหาซื้ออะไรมากิน) ไม่ว่ายังไงก็มองไม่เห็นพระอาทิตย์ หมอกหนามากกก (น้ำค้างลงตลอดเวลา ยังกับฝนตก)
อากาศเหมือนจะเย็นกว่าข้างล่าง คุณหลินเตรียมพร้อมด้วยการหยิบผ้าขนหนูที่โรงแรมมาด้วย (นางใช้ไดร์เป่าผ้าขนหนูที่นางใช้จนแห้ง >> พยายามมาก!!)

หลังจากนั้นเราก็ถ่ายรูปเล็กน้อย แล้วก็กลับลงมาตามเวลา พอมาถึงข้างล่าง (ชานชลาของสถานีรถไฟ)  โชคดีมากที่เห็นพระอาทิตย์ แต่เก็บภาพมาได้ไม่ดีเท่าไหร่


"มองผ่านเลนส์ ไม่สวยเท่ามองด้วยตา
เก็บไว้ด้วยภาพ ไม่อินเท่ากับเก็บไว้ในความทรงจำ"

9.30 น. ตามเวลา แท็กซี่ก็มาจอดรอที่หน้าโรงแรม (เป๊ะมาก)
รถแท็กซี่ที่จินตนาการไว้พังทลายลง!!



มันดีมากกกก เป็นรถตู้ 6 ที่นั่ง วันนี้นั่งไปไกลกว่าครั้งที่แล้วด้วย ราคา 2,500 ดอล รู้สึกว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
บอกลา Dafeng Hotel แล้วออกเดินทางไปยังสถานีต่อไป




ฟังเพลงไต้หวันเพราะๆ นั่งมองวิวข้างทาง >> มันเริ่ดอ่ะ ฟินกับบรรยากาศ!! ปิ่นหันไปบอกเพื่อนๆ ว่า “อยากจะซื้อ mp3 ไต้หวันกลับไปฟังที่เมืองไทย เดี๋ยววันพรุ่งนี้ตอนไปเดินตลาดต้องหาติดไม้ติดมือกลับบ้าน”



คนขับรถใจดีแวะจอดที่วิวสวยๆ โดยไม่ต้องร้องขอ >> จอดตั้ง 4 รอบ แถมช่วยถ่ายรูปให้ด้วย ถ่ายทุกกล้องที่เรามี แถมขอมือถือของเราไปถ่ายให้อีกด้วย โอ้ววว (พี่คนขับแวะจอดที่วัดเทพเจ้าจี้กงด้วย คนที่มาที่นี่เค้าขอพรเรื่องความร่ำรวย >> อ้อมถามพี่เค้า..ตอนที่ขับรถออกมาแล้ว >> ขอพรทันม้ายย??)

ระหว่างนั่งรถก็มองเห็นทะเลหมอก เห็นหมู่บ้านที่อยู่ในหุบเขา มองจากมุมข้างบน เป็นภาพที่สวยงามมากๆ


 แต่ถ้าเราไปยืนอยู่ที่หุบเขาข้างล่าง เราคงไม่เห็นความงามของมันเนอะ >> "บางอย่างก็ต้องยืนห่างออกมา ถึงจะเห็นความงดงามของมัน"

11:45 น. เราก็เดินทางมาถึงสถานี HSR Chiayi สิ่งแรกที่กุ้ยทำคือไปออกตั๋ว (กุ้ยจองออนไลน์และจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว) หลังจากนั้นเราก็ไปเข้าห้องน้ำ กินขนม (เรื่องกินเรื่องใหญ่) เก็บภาพตามประสา แล้วก็ไปรอรถที่ชานชลา 1 รถไฟมาถึง 13:07 น. และเดินทางไปถึง Taipei 14:36 น. เวลาเป๊ะอีกแล้ววว เริ่ดอ่ะ!!

จากนั้นเราก็เดินกลับ Flip Flop Hostel โดยจับป้าย Taipei City Mall เพื่อเอากระเป๋าไปเก็บก่อนออกมากิน Din Tai Fung ที่ Sogo (สถานี Zhongxiao Fuxing) ซึ่งตอนแรกเราเห็นป้าย Sogo ตรงทางออกที่ 1 ก็กรูกันไปเพื่อหา Din Tai Fung แต่เดินหายังไงก็ไม่เจอ เลยต้องถามคนแถวนั้น เค้าบอกว่าร้านอยู่อีกฝั่ง คือ Sogo Fuxing (สถานี Zhongxiao Fuxing ทางออกที่ 2) แวะเติมพลังก่อนไปอาบน้ำพุร้อน



พอกินเสร็จ เราก็เปลี่ยนใจ น้ำพ้งน้ำพุอะไรเราไม่สน ตอนนี้องค์ลง วิญญาณนักชอปเข้าสิงอีกแล้ว ตัดสินใจอย่างปัจจุบันทันด่วน “ป่ะ!! ไปเดินตลาด” ซะงั้น!!

เราใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล แล้วต่อด้วยสายสีเขียว เพื่อไป Raohe St. Night Market (สถานี Shongshan ทางออกที่ 5) ออกจากชานชลา เดินมาทางขวาจนสุด ถนนทางเข้าตลาดจะอยู่ซ้ายมือ (จะมีวัดอยู่ใกล้ๆ ทางเข้าตลาดด้วย)
หลังจากชอปปิงที่ Raohe St. Night Market เรียบร้อย (ปิ่นได้ของฝากมาเยอะเลย) เราก็ไปต่อที่ Ximenting Market (สถานี Ximen ทางออกที่ 6)

เดินออกจากทางออกที่ 6 ตรงไปตามถนนจนเจอทางแยกที่พื้นเป็นวงกลม เดินผ่าน 7-11 ร้าน Sasa จะอยู่ขวามือ เห็น Mask วางเรียงรายที่หน้าร้าน เราก็ปรี่เข้าไปซื้อ >> ดีใจได้ของถูก 2 กล่อง 419 ดอล, 10 กล่อง 1995 ดอล (ถ้าซื้อ 12 กล่อง ราคาจะเป็น 1995 + 419 ดอล อืมมมม เค้าคิดราคาของเป็นแบบนี้หมดเลยแฮะ) หลังจากชอปร้านนี้ เราก็ไปชอปต่อร้านโน้น เพลิดเพลินกับข้าวของที่ละลานตา แล้วปิ่นก็แวะพักกินไอติม (ถ้วยเล็กนิดเดียว แต่ราคาไม่เล็กนะ ถ้าจำไม่ผิดราคาน่าจะอยู่ที่ 100 ดอล หรือ 120 ดอล นี่แหละค่า ถลุงเงินก่อนกลับ!!) แล้วเราก็แวะชิมไก่ HOT STAR  เต้าหู้เหม็น ชาไข่มุก (กิน กับชอป เป็นเรื่องหลักๆ สำหรับทริปนี้ไปเลย)
ซักพักเดินไปซื้อน้ำที่ร้าน 7-11 ที่ติดกับ Starbucks เจอ Mask ยี่ห้อเดียวกัน ราคากล่องละ 299 ดอล โปร 1 แถม 1 โอ้ววว ทุกคนเซงงงงง

พอชอปได้ที่ เราก็กลับมาที่ Hostel >> วันนี้ เจอ roommate ใหม่ ชื่อ เอ็น (en) ชื่อเต็ม โซ โน โกะ ทักทายกับ Roommate ใหม่เล็กน้อย เราก็สาละวนกับการจัดกระเป๋า พอเริ่มจัด เราก็เริ่มคิดหนัก!! เพราะ 30 โลที่ซื้อไว้สำหรับโหลด ต้องไม่พอแน่ๆ เลยตัดสินใจซื้อน้ำหนักเพิ่มอีก 20 โล รวมเป็น 50 โล (อย่าลืมนะคะ!! เราสามารถหิ้วขึ้นเครื่องได้อีก คนละ 10 โล ตอนนี้สัมภาระก็ร่วมๆ 100 โล เปรม!! อิอิ)

No comments:

Google